2.กลยุทธ์การเลือกเกม (Game Selection Strategy)

• มืออาชีพจะวิเคราะห์ข้อมูลเกมอย่างละเอียด ไม่ใช่แค่ดูกราฟิกหรือความนิยม
• เช็คค่า RTP และ Volatility: เลือกเกมที่มีค่า RTP (Return to Player) ตั้งแต่ 96% ขึ้นไป เนื่องจาก RTP คือค่าเปอร์เซ็นต์ของเงินเดิมพันทั้งหมดที่เกมจะจ่ายคืนให้ผู้เล่นในระยะยาว และเป็นตัวบ่งชี้โอกาสในการชนะ RTP ที่สูงกว่าหมายถึงโอกาสที่จะได้รับเงินคืนมากขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ ควรเลือกเกมที่มีค่า Volatility (ความผันผวน) ที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ Volatility เป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงและผลต่อความถี่และขนาดของการชนะ ความผันผวนสูงมักมีการจ่ายเงินที่มากแต่ไม่บ่อย เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีเงินทุนหนา ในขณะที่ความผันผวนต่ำจะมีการจ่ายเงินที่น้อยแต่บ่อยครั้ง เหมาะสำหรับงบประมาณน้อย
• ตรวจสอบ Payline และโครงสร้างการจ่ายเงิน: ทำความเข้าใจ Paylines (เส้นจ่ายเงิน) ซึ่งเป็นเส้นที่ระบุวิธีการชนะเมื่อสัญลักษณ์เรียงกัน เกมที่มี Payline มากอาจชนะบ่อยแต่รางวัลน้อยกว่า เกมที่มี Payline น้อยมักมีรางวัลใหญ่กว่า ตรวจสอบตารางการจ่ายเงิน (Payout Table) เพื่อทราบรายละเอียดของแต่ละสัญลักษณ์และจำนวนเงินรางวัล
• เลือกเกมที่มีฟีเจอร์เสริม: เกมที่มีฟีเจอร์โบนัส ฟรีสปิน หรือฟีเจอร์ซื้อฟรีสปิน จะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น